วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประวัติโดยย่อ พระอาจารย์มานิต เตชวโร  จ.มหาสารคาม 


เด็กชายมานิต เกิดที่บ้านป่ากุงหนา จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เด็กๆ เด็กชายมานิตก็มีนิสัยแปลกกว่าเด็กทั่วไปที่ชอบยิงนกตกปลา แต่เด็กชายมานิตจะมีจิตใจฝักใฝ่ในการชอบทำบุญใส่บาตร ชอบเข้าวัดทำบุญสม่ำเสมอ และมีความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมา พอเด็กชายมานิตเรียนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็มิใคร่อย่างจะเรียนต่อทางโลกอีกต่อไป และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะออกบรรพชาเป็นสามเณรและเรียนต่อในทางธรรม เด็กชายมานิตจึงได้ขอบิดาและมารดาเพื่อออกบวช ซึ่งทางบิดาและมารดาก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด หลังจากได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว สามเณรมานิต ก็ตั้งอกตั้งใจเล่าเรียนทั้งพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม และเรียนคาถาอาคมจากโยมบิดาท่านด้วย จะขอเท้าความถึงโยมบิดาของท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถเรื่องไสยเวทย์มีวิชาและคาถาอาคมอันแก่กล้า ซึ่งท่านก็ได้รับการสืบทอดมาจากโยมปู่ของท่านอีกที เนื่องจากโยมปู่ของท่านนั้นเคยเป็นเสือเก่า ก็จึงมีวิชาอาคมแก่กล้าอย่างยิ่งเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่โยมบิดาของท่านมีชีวิตอยู่มักจะมีคนมาถามโยมบิดาของท่านว่ามีวิชาอะไรดีๆไหม ให้ท่านช่วยสอนช่วยถ่ายทอดให้หน่อยได้ไหม ซึ่งโยมพ่อของท่านก็จะปิดวาจาและทำตัวปกติธรรมดาและไม่ใช้วิชาอาคมที่มีไปรังแกใครหรือทำให้ใครเดือดร้อน จะมีไว้เพียงช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากและปกป้องตนเอง โยมบิดาของท่านจึงได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่มีทั้งหมดที่ได้รับการสืบทอดและร่ำเรียนมาให้สามเณรมานิตจนหมดสิ้น รวมทั้งวิชาทางเป่ารักษาโรค และเมตตามหานิยมที่เลื่องลืออีกด้วย ฯลฯ 

หลังจากร่ำเรียนวิชาจากโยมบิดาจนหมดสิ้นแล้ว โยมบิดาของท่านก็นำสามเณรมานิตไปฝากไว้กับหลวงพ่อโสภี อดีตเจ้าอาวาสวัดป่านาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ซึ่งท่านมีศักดิ์เป็นปู่ในสายญาติ ท่านสอนวิชากรรมฐาน วิชาหุงสีผึ้ง ตะกรุด ปลัดขิก ตำรับเสน่ห์เมตามหานิยม และวิชาต่างๆอีกมากมาย เป็นเวลาถึง 6 ปี จนพระอาจารย์มานิต ร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อโสภีจนหมดสิ้น หลังจากนั้นด้วยบุญบารมีของสามเณรมานิตที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านก็มีโอกาสได้เจอกับพระธุดงค์ลึกลับรูปหนึ่งท่านธุดงค์มาถึงวัดป่านาเชือก สามเณรมานิตในตอนนั้นที่มีอุปนิสัยน่าเอ็นดูขยันขวัญขวายหาความรู้ และได้มีโอกาสได้ดูแลและอุปัฏฐากพระธุดงค์ลึกลับรูปนั้นด้วยความเลื่อมใสศรัทธาจนได้รับความไว้วางใจจากท่าน และสนิทสนมเรียกหาเรียกใช้อยู่ตลอด เมื่อถึงเวลาที่พระธุดงค์รูปนั้นจะต้องจาริกไปธุดวค์ต่อแล้วก็เลยชวนสามเณรมานิตออกไปธุดงค์ด้วย และเป็นโอกาสที่ดีที่สามเณรมานิตจะได้เรียนได้ศึกษาวิชาอาคมอันศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรณจากพระอาจารย์ลึกลับท่านนั้นหลายอย่าง อีกทั้งได้ร่ำเรียนการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาขอพลีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเพื่อเก็บเอาไว้สร้างวัตถุมงคลด้วย (แต่พระธุดวงค์รูปนี้ไม่ยอมบอกชื่อของท่านให้เรียกเพียงพระอาจารย์เท่านั้น) ท่านสอนวิชาปลุกเสกป้องกันภัยอันตรายต่างๆ แม้แต่เศษหินดินทรายหรือหญ้าคาก็สามารถปลุกเสกให้มีพลังอำนาจตามประสงค์ได้ และการฝึกกรรมฐาน และอำนาจจิตขึ้นสูงด้วยฯลฯ 

หลังจากกลับจากธุดงค์สามรเณรมานิตก็ได้มอบตัวเป็นศิษย์ของพระอาจารย์คำภาสายธรรมเก้าโกฏิของหลวงปู่รอด สุวัณโณ วัดสระแคนเจริญศรี บ.อ้น อ.จตุรภักพิมาน จ.ร้อยเอ็ด และเมื่ออายุครบ 20 ปีก็จึงเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนา และได้รับมอบตำราธรรมพระไตรใหญ่จากศิษย์พี่ของพระอาจารย์คำภาคือ พระอาจารย์บุญถม เจ้าอาวาสวัดบ้านนาฝาย อ.นาดูน จ.มหาสารคามอีกด้วย ต่อจากนั้นพระอาจารย์มานิตก็ได้มอบตัวเป็นศิษย์ของพระเดชพระคุณเจ้าหลวงพ่อพระราชสารธรรมมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เรียนวิชาธรรมบรรลุ ธรรมโองการร้อยแปด ธรรมพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ธรรมมูลลี ธรรมท้าวเวสสุวรรณ การหุงสีผึ้งกันผี สีผึ้งเสนห์ช้างผสมโขลง ฯลฯ และท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต (พระเกจิอาจารย์ที่มีคนเคารพนับถืออย่างมากมายผู้เป็นเลิศเรื่องญานกรรมฐานและมีฤทธิ์มากยากจะคาดเดาได้แต่ท่านจะไม่แสดงตัวหรือโอ้อวดใดๆเลย) ส่วนมากหลวงพ่อขาวจะสอนกรรมฐาน และสอนธรรมะให้พระอาจารย์มานิตเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนวิชาอันลึกลับนั้นท่านจะสอนแบบให้จำเอาโดยท่านท่องให้ฟัง ห้ามจด พระอาจารย์มานิตยังเล่าให้ฟังอีกว่าท่านยังมีครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ชอบมาสอนท่านในความฝันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่แปลกที่สุด ถ้าท่านอาจารย์ในฝันจะให้วิชาอะไรท่านจะสั่งให้ทำเลย แล้วเมื่อพระอาจารย์มานิตทำตามที่ท่านสั่งก็สามารถใช้ให้เกิดผลได้จริงเช่นกัน ส่วนใหญ่ท่านจะเน้นที่เรื่องสมาธิจิตเป็นหลัก และสุดท้ายท่านอาจารย์ในฝันก็ให้พรท่านเอาไว้ว่า "ขอให้ว่าอะไรก็ให้ขลังนะ" (หมายความว่า ไม่ว่าพระอาจารย์มานิตจะพูดหรือปลุกเสกวัตถุมงคลใดก็จะขลัง) ทำให้พระอาจารย์มานิตมีความปราบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างมากในความเมตตาของท่านอาจาารย์ในฝันท่านนี้ นอกจากนั้นพระอาจารย์มานิตยังได้ศึกษาตำราของสายหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ ตำราจากสายวัดประดู่ทรงธรรม และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเรื่อยมา  จนมาวันหนึ่งวัดบ้านหนองแคนได้ร้างเจ้าอาวาสมาได้สักระยะ และไม่มีพระสงฆ์มาปฏิบัติกิจแก่วัดเลย และเกรงว่าวัดนี้จะกลายเป็นวัดร้างไปเสีย เพราะฉะนั้นชาวบ้านหนองแคนจึงได้สรรหาพระสงฆ์ที่คู่ควรมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสของวัด ซึ่งวัดหนองแคนนี้มีเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ท่านจึงได้ดลใจให้ผู้ใหญ่บ้านไปขอนิมนต์พระอาจารย์มานิตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองแคน ต่อจากหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย พระครูปริยัติพัฒโนดมตั้งแต่ปีพ.ศ 2550 เป็นต้นมา 

ในตอนช่วงที่ท่านมารับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองแคนใหม่ๆนั้นก็ได้รับความลำบากมิใช่น้อย เพราะพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่ยังรกร้าง วัดวาอารามยังทรุดโทรมอยู่มาก จะหาใครจะมาช่วยทำนุบำรุงวัดก็ไม่มี ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาและมีเมตตากรุณาสูงส่งต่อทั้งญาติโยมและชาวบ้าน ท่านเล็งเห็นว่าชาวบ้านหนองแคนส่วนใหญ่ก็ยังลำบากเรื่องอยู่เรื่องกินกันอยู่ และอาชีพก็ทำการเกษตรหาเช้ากินค่ำ หากจะรบกวนปัจจัยญาติโยมมาบูรณะวัดก็คงเป็นเรื่องที่ยาก แต่ด้วยบุญบารมีของท่านและจิตใจแน่วแน่ในการจะพัฒนาวัดบ้านหนองแคนให้กลับมารุ่งเรืองและดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาสืบไป ท่านจึงใช้วิชาต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์และได้สร้างวัตถุมงคลต่างๆขึ้นมาจนเป็นที่เลื่องลือ เช่น กุมารทองมินจา มิจา สองพี่น้อง, กุมารทองมหาเวทย์, ปู่เจ้าสมิงพราย, สีผึ้งเสน่ห์, น้ำมันเสน่ห์, ปิดตานางพราย,หุ่นพยนต์ เป็นต้น ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และและประสบการณ์ต่างๆจากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านพระอาจารย์มานิตไปนั้น ล้วนแล้วแต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเข้มขลังเป็นอันมาก และมีคนบูชาไปจนเกลี้ยงเพียงแค่เปิดให้บูชาเท่านั้น จึงทำให้การทำนุบำรุงวัดบ้านหนองแคนของท่านพระอาจารย์มานิตเป็นไปได้อย่างราบรื่น และเจริญรุ่งเรืองสืบมา ต่อมาท่านพระอาจารย์มานิตจึงได้มีดำริในการสร้างพระธาตุเจดีย์พุทธมงคลศรีพยัคฆ์ขึ้นเพื่อสถิตประบรมสารีริกธาตุที่ท่านได้รับมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คนในพื้นที่และบุคคลทั่วไปให้ได้มีโอกาสมากราบไหว้สักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุกันอย่างทั่วหน้า แต่การดำเนินการจัดสร้างยังมีความล่าช้าเพราะงบประมาณในการจัดสร้างค่อนข้างสูงมาก แต่ท่านพระอาจารย์มานิตก็มิได้ย่อท้อแต่อย่างใด ยังมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างพระเจดีย์ให้สำเร็จต่อไป  ในคืนหนึ่งท่านได้ฝันว่า มีชายแก่คนหนึ่งมาเข้าฝันท่านบอกว่า ตัวเขาเองเป็นเจ้าที่ที่ปกปักษ์รักษาสถานที่วัดบ้านหนองแคนแห่งนี้มานานกว่า 1000 ปีแล้ว ที่ๆท่านอยู่คือสระน้ำที่อยู่ภายในวัดนี้เอง แล้วท่านยังบอกพระอาจารย์มานิตอีกว่า ท่านอยากจะสร้างวัดหรือไม่ หากอยากสร้างท่านจะช่วยสร้างขอให้พระอาจารย์ทำกุมารทองขึ้นมาให้องค์หนึ่งมีสีดำมีชื่อเรียกว่ามินจา อีกองค์หนึ่งมีสีแดงมีชื่อเรียกว่ามิจา และทั้งสององค์นี้จะต้องทำดวงตาให้มีสีแดงสด คนแก่ท่านนั้นยังบอกอีกว่ากุมารทองสองพี่น้องนี้เขาอยู่ที่วัดแห่งนี้มาหลายร้อยปีแล้ว หากอยากสร้างวัดท่านจะช่วย เวลาปลุกเสกนั้นขอให้พระอาจารย์เชิญญาณบารมีของพี่น้องมินจา-มิจา ลงไปในหุ่นกุมารด้วย ซึ่งกุมารทองมินจามิจารุ่นแรกที่พระอาจารย์ท่านจัดสร้างนั้น ท่านจัดสร้างเพียงสิบคู่เท่านั้น ในเวลาไม่นานก็มีผู้บูชาหมดทั้งสิบคู่ แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือนมีผู้นำมากุมารทองมินจาและมิจามาคืนวัดถึงหกคู่เหตุผลเพราะด้วยความแรงตามคำล่ำลือนั้นเอง รุ่นนี้ท่านจัดสร้างเพราะมีวัตุถุประสงค์เพื่อนำปัจจัยที่ได้สร้างเจดีย์ที่กำลังดำเนินการอยู่ 

หลังจากนั้นท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลต่างๆ รวมถึงกุมารทองอีกหลายรุ่น เพื่อนำปัจจัยที่ได้สมทบทุนสร้างพระธาตุเจดีย์พุทธมงคลศรีพยัคฆ์จนสำเร็จในกลางปี 2558 นี้ ท่านพระอาจารย์มานิตได้มีความมานะบากบั่น เหน็ดเหนื่อยมากมายแต่ท่านก็ไม่เคยปริปากบ่น และมีจิตใจที่มุ่งมันและเสียสละเป็นอย่างยิ่ง จนทุกวันนี้ท่านก็สามารถสร้างพระธาตุเจดีย์พุทธมงคลศรีพยัคฆ์ได้สมเร็จตามความประสงค์และอีกอย่างทางวัดบ้านหนองแคนก็มีผู้คนทั่วไปรู้จักกันพอสมควรแล้ว และสามารถอยู่ได้ด้วยแรงศรัทธาของญาติโยมต่อไป  เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจสร้างพระธาตุเจดีย์พุทธมงคลศรีพยัคฆ์นี้แล้ว ด้วยความกตัญญูและกตเวทีของพระอาจารย์มานิตที่มีต่อโยมบิดามารดาและบ้านเกิดเมืองนอนของท่านที่จากมาหลายปี จึงทำให้ท่านดำริจะกลับสู่ภูมิลำเนาและกลับไปช่วยโปรดคนในพื้นที่แถบบ้านท่าน โดยท่านพระอาจารย์มานิตจะไปสร้างวัดใหม่ที่นั้น ซึ่งมีชื่อว่า วัดสวนป่าเทพประสิทธิ์ บ้านป่ากุงหนา จังหวัดมหาสารคาม  ซึ่งตอนนี้ยังเป็นพื้นที่โล่งๆ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีเพียงกุฏิหลังเล็กๆไว้บังแดดบังลมเพียงชั่วคราว หากท่านสาธุชนท่านใดมีความประสงค์จะร่วมสมทบทุนร่วมสร้างวัดป่าเทพประสิทธิ์ กับพระอาจารย์มานิต ก็สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่พระอาจารย์มานิต   เตชวโร เบอร์โทร 082-3147669 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารระบุถึง พระมานิต เตชวโร
-ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ สาขาพยัคฆภูมิพิสัย เลขบัญชี 423-0-37605-7 หรือ
-ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาพยัคฆภูมิพิสัย เลขบัญชี 363-2-62714-8

ขออนุโมทนาบุญ สาธุการกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ดูดวงแบบโหราศาสตร์ไทย โดย โหราหน้าหยก

ดูดวงชะตาแบบโหราศาสตร์ นิรายนะ (ลาหิรี)

           โหราศาสตร์แบบนิรายนะ (ลาหิรี) คือ โหราศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีความเป็นมาอย่างยาวนานและเก่าแก่ มากศาสตร์หนึ่งของโลก ถ้าหากจะนับก็คงนับได้ราวๆ     4000 - 5,000 ปี  หรือมากกว่านั้นอีก มีใช้กันมากในประเทศอินเดีย พม่า และไทย โดยแบ่งจักรราศีออกเท่าๆกัน เป็น 12 ราศี โดยมีราศีละ 30 องศา  และได้มีการศึกษาค้นคว้ากันอยู่ทุกยุคทุกสมัย โดยจะ เน้นเรื่องราศี, ดาวเคราะห์ทำมุม, ดาวเคราะห์สัมพันธ์กันในทางราศีหรือทางเรือนชะตาหรือเรียกว่าภพนั่นเอง  รวมถึงเรื่องตำแหน่งพิเศษต่างๆ อาทิเช่น เกษตร,ปรเกษตร,อุจจ์,นีจ,เป็นต้นดาวฤกษ์ กลุ่มดาวนักกษัตร ดาวคู่ธาตุ, ดาวคู่มิตร ฯ และอีกมากมายโดยทางโหราหน้าหยกจะสรุปแบบละเอียดเข้าใจง่าย ตรงๆ ไม่อ้อมค้อมส่วนความแม่นยำก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ทำนายที่จะให้ข้อมูลที่เป็นความจริงเท่านั้น เหมือนการรักษาคนไข้ ถ้าคนไข้ปวดท้องก็ต้องแจ้งหมอว่าปวดท้อง ไม่ใช่นอนร้องไห้เฉยๆ โดยไม่บอกอาการอะไรเลย ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาเลย ปล่อยให้คุณหมอวินิจฉัยเอาเอง อย่างนี้กว่าหมอจะรักษาตรงจุดก็ต้องเสียเวลาในการตรวจเช็ค สภาพร่างกาย เอ็กซ์เรย์ ตรวจเลือดและอื่นๆ  เพื่อหาข้อวินิจฉัยโรค เป็นต้น

โหราหน้าหยก เหมือนเพื่อนผู้ร่วมเดินทางชีวิตของคุณ คุณสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง ส่วนข้อมูลต่างๆจะถูกเก็บเป็นความลับระหว่างโหราหน้าหยกและผู้รับการทำนายเท่านั้น ขั้นตอนในการขอรับคำทำนายจากโหราหน้าหยกคือ

1.     มีค่าครูในการตรวจดวงชะตากับโหราหน้าหยก
    * ตรวจพื้นฐานดวงชะตาทั่วไปประจำปี หรือ การตรวจดวงชะตาเพื่อแก้ไขปัญหา และ หนุนดวงชะตาในเรื่องหนึ่งๆ โดยตรง เช่น เน้นเรื่อง การงาน โดยตรง เป็นต้น ค่าครู     595  บาท
    *  ตรวจพื้นดวงชะตาแบบละเอียด พร้อมปรับโฉลกพื้นดวงชะตาทุกเรื่อง  995 บาท

2.     ส่งความประสงค์ขอตรวจดวงชะตากับทางโหราหน้าหยก ผ่านทาง อีเมล์,facebook หรือ line พร้อมแจ้ง ชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด,เวลาเกิด และสถานที่เกิด มาให้ชัดเจน พร้อมแจ้ง ช่วงวันและเวลาที่สะดวกมาให้ ด้วย แล้วทางโหราหน้าหยก จะรีบติดต่อท่านกลับไปเพื่อยื่นยันวันและเวลาที่สะดวกในรับคำทำนาย ต่อท่านเป็นลำดับต่อไป

3.    หากท่านสะดวกตามวันเวลาที่ได้นัดหมายแล้ว รบกวนท่านโอนเงินค่าครูและส่งหลักฐานการโอนเงิน แล้วแจ้งกลับผ่านมาทางอีเมล์,facebook หรือ line และเมื่อทางเราตรวจสอบหลักฐานและยอดเงินเป็นเรียบร้อยแล้วจะติดต่อและยืนยันท่านกลับไปอีกครั้ง

4.     ช่องทางในการรับคำพยากรณ์จากทางโหราหน้าหยกมี 3 ช่องทางด้วยกันคือ

 1.   โทรผ่านทาง Skype

 2.   โทรผ่านทาง Line

 3.   ผ่านทางอีเมล์   โดยทางโหราหน้าหยกจะจัดพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างละเอียด ทุกแง่มุม และทุกคำถามที่ท่านอยากจะรู้  ในกรณีที่บางท่านไม่สะดวกโทร หรือ เวลาไม่ตรงกัน และอาจจะขี้ลืมง่าย และอยากเก็บไว้อ่านหรือกันลืม                                                   (ในกรณีนี้จะใช้เวลาในการจัดพิมพ์ประมาณ 4-5 วัน โดยขอบวกเพิ่มค่าจัดพิมพ์จากค่าครู อีก 150 บาท หากบางท่านที่ต้องการในกรณีเร่งด่วนจริงๆ คือต้องการภายใน 1 วันเท่านั้น ขอบวกเพิ่มจากค่าครูอีก 450 บาท)

ขออภัยที่ทางโหราหน้าหยกไม่สามารถให้บริการท่านแบบพูดคุยต่อหน้าในสถานที่และแบบโทรผ่านทางโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ เนื่องจากโหราหน้าหยกมีภารกิจที่ต้องทำงานประจำอยู่แล้ว และต้องเดินทางไปมาต่างประเทศบ่อยๆจึงสะดวกในการใช้ แอพพลิเคชั่น ที่ไม่ว่าเราจะอยู่แห่งหนตำบลใดบนโลกนี้ก็สามารถติดต่อกันได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จึงเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดในยุคปัจจุบันนี้

ชื่อนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมต้องมีการเปลี่ยน ชื่อและนามสกุล

ชื่อและนามสกุล มีความสำคัญต่อชะตาชีวิตจริงหรือ?

     โหราหน้าหยก ขอตอบเพียงสั้นๆและยกตัวอย่างให้เข้าใจกันง่ายๆ  ชื่อถึงแม้จะเป็นเพียงนามสมมุติที่เราอุปโลกน์ขึ้นก็จริง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใช้เรียกขานเพื่อแยกแยะบุคคล และสร้างความจดจำ จึงเกิดเป็นพลังอำนาจอันลึกลับขับเคลื่อนและมีผลต่อผู้อยู่ภายใต้อิทธิพลแห่งเลขศาสตร์และอักษรแต่ละตัวแล้วนำมาร้อยเรียงเป็นคำและพยางค์และรวมเป็นชื่อนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อตัว หรือชื่อนามสกุล ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญมิใช่น้อย และเมื่อรวมชื่อและนามสกุล ร่วมกันก็คือสิ่งที่แทนความเป็นตัวตนของบุคคลนั้นๆอีกด้วย เช่น ตั้งแต่เมื่อเราเกิด เราก็ใช้ชื่อนามสกุลในการแจ้งเกิด หลังจากนั้นก็ใช้เข้าโรงเรียน ทำบัตรประจำตัวประชาชน และติดต่อราชการต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองไทยหรือต่างประเทศ เราก็ยังใช้ชื่อและนามสกุลนี้ไปจนวันตาย แม้ขนาดเวลาตายไปแล้ว เรายังใช้ชื่อและนามสกุลนี้เช่นกันเพื่อยืนยันความเป็นตนตัวของเราต่อท่านยมบาลอีกด้วย เพราะในโลกทิพย์เขามีบัญชีบุญ บัญชีบาป ที่จะใช้ชื่อและนามสกุลที่เราสมมุติขึ้นไว้ตั้งแต่เรายังอยู่บนโลกมนุษย์นี้เอง หรือแม้แต่ลูกหลานจะอุทิศบุญกุศล หรือกรวดน้ำฝากผ่านพระแม่ธรณีพระแม่คงคาไปก็จะอุทิศให้ท่านผ่านชื่อและนามสกุลนี้ใช่กัน  เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราจึงมีความเกี่ยวข้องกับชื่อและนามสกุลอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วด้วยเหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ท่านลองตรองดูเถิดว่า ชื่อและนามสกุลจะมีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อพลังขับเคลื่อนชีวิตของเราได้มากน้อยเพียงใด แต่สำหรับโหราหน้าหยกแล้ว ขอแนะนำให้สหายรักทั้งหลายควรมีผลรวมชื่อ ผลรวมนามสกุล และผลรวมชื่อและนามสกุล ที่ดี จึงจะช่วยหนุนนำชีวิตให้รุ่งเรืองและส่งผลดี ต่อทั้งเรื่อง หน้าที่ การงาน การเงิน ความรัก และครอบครัว ไม่มากก็น้อย หรือแม้แต่อาจจะส่งผลสู้แรงกรรมที่ติดตามตัวของแต่ละบุคคลมาแต่กำเนิดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ย่ำแย่และต่ำต้อยลงไปด้วยแรงแห่งชื่อและนามสกุลที่ตกเลขไม่ดีอย่างแน่นอน


หากมีความประสงค์อยากจะเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล กับทางโหราหน้าหยก ทำอย่างไร?

       โหราหน้าหยกจะใช้วิธีการตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อโดยการผูกดวงทางโหราศาสตร์แบบนิรายนะ(ลาหิรี) ขึ้นมาก่อน เพื่อตรวจสอบพื้นฐานดวงชะตาโดยละเอียดก่อนว่า ในดวงชะตาของท่านมีจุดแข็งและจุดอ่อนตามสภาพพื้นดวงเป็นเช่นไร ควรเสริมบารมีเรื่องไหนได้บ้างหรือควรใช้อักษรวรรคใดขึ้นต้นถึงจะดีที่สุด แล้วค่อยใช้ศาสตร์ทักษาและเลขศาสตร์เข้ามาช่วยเสริม ปรับและดีไซต์ให้เข้ากับแต่ละบุคคลเป็นรายๆไป เปรียบเสมือนกับการตัดเย็บชุดที่เหมาะสมกับตัวที่สุด ไม่ใหญ่เกินไปจนลุ่มล่าม ไม่เล็กเกินไปจนดูอึกอัด และที่สำคัญใส่แล้วรู้สึกสบายตัว ตามยุคตามสมัย และช่วยเสริมบารมีและหนุนดวงชะตาให้ดีขึ้นได้จริงๆ สำหรับท่านใดที่ประสงค์อยากเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลใหม่กับทางโหราหน้าหยก ก็มีรายละเอียดดังนี้


·     ค่าครูค่าตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อใหม่        995  บาท  (ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน)


·     ค่าครูค่าตั้งนามสกุลใหม่                 1,595 บาท  (ใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน พร้อมตรวจสอบเช็คกับทะเบียนราษฏรให้เรียบร้อย) 


***หมายเหตุ***
ส่วนฤกษ์งามยามดีที่จะทำการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลท่านสามารถดำเนินการหาได้เองตาวันและเวลาที่ท่านสะดวก เพราะทางโหราหน้าหยก ไม่รับให้ฤกษ์แต่ประการใด แต่หากท่านอยากถือไว้เป็นเคล็ดและไม่ทราบจริงๆว่าจะเปลี่ยนได้ในวันไหนดี ก็สามารถขอรับคำแนะนำวันเวลาได้ที่โหราหน้าหยก ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โหราศาสตร์ นิรายนะ(ลาหิรี) โดย โหราหน้าหยก

http://horranayok.com/index.php
เว็ปไซต์ โหราหน้าหยก เปรียบเสมือนเพื่อนผู้ร่วมเดินทางชีวิต ที่มีแต่ความปรารถนาดี แนะเพื่อน เตือนเพื่อน ส่งเสริมเพื่อน สู่เป้าหมายให้สำเร็จ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาด้านไหน การงาน การเงิน ชีวิต ความรัก และครอบครัว เราอยู่กับคุณทุกสถานการณ์          
ดังคำสำนวนกล่าวไว้ว่า หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอโหราหน้าหยกมีความยินดี ปีติ ยิ่งที่เราได้มีโอกาสมาร่วมวาสนาพบเจอกันอีกครั้ง กัลยาณมิตรย่อมนำพาสหายรักสู่ความเจริญฉันใด โหราหน้าหยกย่อมเป็นเพื่อนร่วมเดินทางชีวิตแห่งสหายรัก ฉันนั้นแลฯ ไม่ว่าท่านจะมีความคับข้องใจประการใด โหราหน้าหยกจะคอยอยู่เคียงข้างท่านทุกสถานการณ์ของชีวิต โหราหน้าหยกขอทูลพึ่งบารมีครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ท่านประสิทธิ ประสาทวิชาความรู้ด้านโหราศาสตร์ และเลขศาสตร์ และศาสตร์แห่งการทำนายทายทักต่างๆ เพื่อช่วยเป็นเข็มทิศและแสงสว่างนำทางชีวิต ให้ข้ามพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและส่งเสริมด้วยบารมีแห่งครูบาอาจารย์ท่านหลาย โปรดช่วยดลบันดาลให้ทุกๆท่านที่มาเยี่ยมชม โหราหน้าหยก ดอทคอม จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ไร้ซึ่งปัญหาและอุปสรรคในชีวิต ให้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ทรัพย์ศฤงคาร ทุกกาล ทุกเวลา อันว่า ความไม่มี ความไม่สามารถ จงอย่าได้บังเกิด ขอให้มีแต่สิ่งที่ดี คนที่ดี เข้ามาในชีวิต คิดมุ่งหวังประการใด อันถูกชอบแล้วด้วยคุณธรรมจริยธรรม ขอพรอันประเสริฐอันนั้น จงดลบันดาลให้ทุกๆท่านจงสมหวังดังปรารถนา ทุกประการเทอญ

จรรยาบรรณโหร

 “ทายสามีภรรยาให้ราคี ทายชีวีวิบัติตัดชันษา
ทายคุณโทษทารกทาริกา ครูโหราท่านห้ามการทำนาย”

โหราหน้าหยก ขอน้อมรับและปฏิบัติตามคำสั่งของท่านครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด และขอประกาศต่อผู้ที่ต้องการรับคำทำนายและตรวจดวงชะตากับโหราหน้าหยกไว้ว่า โหราหน้าหยกจะขอไม่ทำนายแบบชี้ขาด และขอเรียนผู้รับคำทำนายไว้ว่าไม่ต้องคาดคั้นเพื่อจะเอาคำตอบสุดท้าย ในทั้งกรณีทั้งสามข้อนี้คือ

๑. ให้ทำนายเรื่องคู่สามี ภรรยา ให้มีปัญหากัน หรือให้ทะเลาะกัน หรือว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน และจะต้องแยกทางกันในภายหลัง หรือถามว่าจะแยกทางกันดีไหม จะเลิกกันได้เมื่อไหร่ เป็นต้น
๒. ให้ทำนายว่าชีวิตใครจะถึงฆาตเมื่อไหร่ หรือบุคคลนั้น บุคคลนี้จะตายเมื่อไหร่ จะมีอายุยาวนานถึงกี่ปีเป็นต้น
๓. ให้ทำนายว่า ลูกคนนี้หรือลูกคนนั้น เด็กคนโน้น ทารกที่เกิดมานี้ จะดีหรือไม่ดี โตขึ้นมาจะพึ่งได้หรือไม่ได้ เป็นต้น